วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

พลิกผืนนาให้เป็นสวน "มะยงชิด" อาชีพเสริมรายได้หลังเกษียณ


              คุณพ่อนิยม แม้อดีตจะเป็นข้าราชการชลประทาน คลองเหมือง แต่ในขณะที่ยังไม่เกษียณก็ยังแบ่งเวลามาทำสวนเกษตรด้วยการปลูกมะยงชิด มะปรางหวานเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยใช้พื้นที่ที่เคยเป็นที่นาเก่ามาปรับเปลี่ยนเป็นสวนมะยงชิด มะปรางหวาน หลังจากทำกิ่งพันธุ์มะยงชิดมาทดลองปลูกสลับกับต้นไม้อื่นที่มีอยู่เก่า เช่น มะม่วง มะดัน ปลูกเล่นๆ เป็นงานอดิเรก จนในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง เมื่อเห็นมะยงชิดผลิดอกออกผลเหลืองอร่ามเต็มต้น จากนั้นจึงเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 7 ไร่ จากที่ดินที่เคยทำนา พลิกจากพื้นนามาเป็นสวนมะยงชิดมะปรางหวาน หวังให้เป็นรายได้หลังเกษียณ ซึ่งในปัจจุบันก็มีรายได้จากการปลูกมะยงชิดเลี้ยงชีพในวัยเกษียณนี่แหละครับ

ก่อนอื่นขออธิบายถึงการเตรียมพื้นที่ ซึ่งมีหลายแบบ แต่ที่สวนเราประหยัด ทำแบบเกษตรพอเพียง คือจะเอาที่นาเดิมนั่นแหละครับ ขุดให้เป็บบ่อ ยกร่องเป็นโคกสูงเพื่อปลูกมะยงชิด แล้วเราก็จะได้ทั้งแหล่งน้ำ บ่อเลี้ยงปลา และปลูกต้นไม้ด้วย ไม่ต้องซื้อดินมาถมให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขั้นตอนการปลูกว่าในพื้นที่ 1 ไร่จะสามารถปลูกมะยงชิดได้ประมาณ 50-60 ต้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนในการจัดการสวน โดยระยะการปลูกก็ไม่ต้องห่างกันมากตามหลักทฤษฎีอะไร เพราะว่าเวลาที่เราปลูก แล้วต้นโตขึ้น เราก็สามารถที่จะทาบกิ่งพันธุ์ขายได้ ต้นก็จะไม่ใหญ่เก้งก้างออกไป ปลูกติดๆกันไม่เป็นไรครับ ก่อนอื่นเลยเวลาปลูกเราค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เริ่มจากปลูกกล้วยเพื่อให้ร่มเงาก่อน เพราะโตไวมาก แล้วพอต้นกล้วยเริ่มโต เราก็นำมะยงชิดมะปลูกใกล้ๆ ให้ต้นกล้วยเป็นร่มเงาบังแดด ต้นมะยงชิดก็จะมีร่มเงา ไม่ร้อนจนใบไหม้ ที่สำคัญถ้านำสแลน(ตาข่ายดำ)มาบังแดดด้วยในระยะแรกๆก็จะดีมากครับ เรื่องของระบบน้ำจะแนะนำแบบง่ายๆ เรียกว่าแบบประหยัด เพราะเราเพิ่งเริ่มต้นทุนอาจจะน้อย ยังไม่ใช้วิธีติดสปิงเกอร์ก็ได้ เราใช้สายดำเจาะรูแทนครับ ลดน้ำได้ไม่เลวเลยครับ การให้น้ำหลังปลูกใหม่ 2-3 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นของพื้นที่ช่วงที่แตกใบอ่อนนั้นต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเพลี้ยไฟมาดูดน้ำเลี้ยงที่ใบอ่อน ยอดอ่อนและช่อดอก ตลอดจนผลอ่อนของมะยงชิด และมะปรางหวาน ทำให้ใบไหม้หงิกงอ เสียรูปทรงและติดผลน้อย และผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุของต้น ถ้าเลือกกิ่งพันธ์ต้นใหญ่ไปปลูกก็จะออกลูกไวกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเคล็ดลับและวิธีการดูแลต้นมะยงชิดและมะปรางให้ออกดอกติดผลต่างกัน ส่วนการเลือกใส่ปุ๋ยก็จะทำให้รสชาติแตกต่างกันออกไป ถ้าใส่ปุ๋ยเคมี รสชาติจะออกหวานแบบชืด ถ้าใสปุ๋ยชีวภาพก็จะหวานแบบชื่นใจคือหวานแบบธรรมชาติ ที่บ้านเราหมักปุ๋ยเองเองเลยหวานเจี๊ยบทุกลูก

                ด้วยสภาพอากาศช่วงของฤดูหนาวค่อนข้างจะยาวนาน จึงเป็นผลดีกับผู้ปลูกมะปราง และมะยงชิด มะปรางออกช่อและติดลูกมีถึง 2 ช่วงด้วยกัน โดยช่วงแรกผลจะสุกประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ และช่วงที่สองประมาณเดือนมีนาคม สำหรับรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตในแต่ละปีหายแสนบาท ซึ่งไม่รวมการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ที่ได้ในแต่ละเดือน เพราะหนึ่งกิโลกรัมละมีประมาณ 8-15 ลูก ราคาเฉลี่ย 150-350 บาท แต่ละต้นจะให้ผลผลิตเฉลี่ย 40-60 กิโลกรัม และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาปรึกษา ดูวิธีปลูก และซื้อกิ่งพันธุ์ทุกวัน


             สำหรับผู้ที่สนใจต้องการข้อมูลในการปลูกและดูแลบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและให้ผลผลิตเร็วสามารถติดต่อได้ที่ 08-97401140 ครับ



พลิกผืนนาให้เป็นสวน "มะยงชิด" อาชีพเสริมรายได้หลังเกษียณ


              คุณพ่อนิยม แม้อดีตจะเป็นข้าราชการชลประทาน คลองเหมือง แต่ในขณะที่ยังไม่เกษียณก็ยังแบ่งเวลามาทำสวนเกษตรด้วยการปลูกมะยงชิด มะปรางหวานเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยใช้พื้นที่ที่เคยเป็นที่นาเก่ามาปรับเปลี่ยนเป็นสวนมะยงชิด มะปรางหวาน หลังจากทำกิ่งพันธุ์มะยงชิดมาทดลองปลูกสลับกับต้นไม้อื่นที่มีอยู่เก่า เช่น มะม่วง มะดัน ปลูกเล่นๆ เป็นงานอดิเรก
จนในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง เมื่อเห็นมะยงชิดผลิดอกออกผลเหลืองอร่ามเต็มต้น จากนั้นจึงเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 7 ไร่ จากที่ดินที่เคยทำนา พลิกจากพื้นนามาเป็นสวนมะยงชิดมะปรางหวาน หวังให้เป็นรายได้หลังเกษียณ ซึ่งในปัจจุบันก็มีรายได้จากการปลูกมะยงชิดเลี้ยงชีพในวัยเกษียณนี่แหละครับ
                  ก่อนอื่นขออธิบายถึงการเตรียมพื้นที่ ซึ่งมีหลายแบบ แต่ที่สวนเราประหยัด ทำแบบเกษตรพอเพียง คือจะเอาที่นาเดิมนั่นแหละครับ ขุดให้เป็บบ่อ ยกร่องเป็นโคกสูงเพื่อปลูกมะยงชิด แล้วเราก็จะได้ทั้งแหล่งน้ำ บ่อเลี้ยงปลา และปลูกต้นไม้ด้วย ไม่ต้องซื้อดินมาถมให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขั้นตอนการปลูกว่าในพื้นที่ 1 ไร่จะสามารถปลูกมะยงชิดได้ประมาณ 50-60 ต้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนในการจัดการสวน โดยระยะการปลูกก็ไม่ต้องห่างกันมากตามหลักทฤษฎีอะไร เพราะว่าเวลาที่เราปลูก แล้วต้นโตขึ้น เราก็สามารถที่จะทาบกิ่งพันธุ์ขายได้ ต้นก็จะไม่ใหญ่เก้งก้างออกไป ปลูกติดๆกันไม่เป็นไรครับ ก่อนอื่นเลยเวลาปลูกเราค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เริ่มจากปลูกกล้วยเพื่อให้ร่มเงาก่อน เพราะโตไวมาก แล้วพอต้นกล้วยเริ่มโต เราก็นำมะยงชิดมะปลูกใกล้ๆ ให้ต้นกล้วยเป็นร่มเงาบังแดด ต้นมะยงชิดก็จะมีร่มเงา ไม่ร้อนจนใบไหม้ ที่สำคัญถ้านำสแลน(ตาข่ายดำ)มาบังแดดด้วยในระยะแรกๆก็จะดีมากครับ เรื่องของระบบน้ำจะแนะนำแบบง่ายๆ เรียกว่าแบบประหยัด เพราะเราเพิ่งเริ่มต้นทุนอาจจะน้อย ยังไม่ใช้วิธีติดสปิงเกอร์ก็ได้ เราใช้สายดำเจาะรูแทนครับ ลดน้ำได้ไม่เลวเลยครับ การให้น้ำหลังปลูกใหม่ 2-3 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นของพื้นที่ช่วงที่แตกใบอ่อนนั้นต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเพลี้ยไฟมาดูดน้ำเลี้ยงที่ใบอ่อน ยอดอ่อนและช่อดอก ตลอดจนผลอ่อนของมะยงชิด และมะปรางหวาน ทำให้ใบไหม้หงิกงอ เสียรูปทรงและติดผลน้อย และผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุของต้น ถ้าเลือกกิ่งพันธ์ต้นใหญ่ไปปลูกก็จะออกลูกไวกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเคล็ดลับและวิธีการดูแลต้นมะยงชิดและมะปรางให้ออกดอกติดผลต่างกัน ส่วนการเลือกใส่ปุ๋ยก็จะทำให้รสชาติแตกต่างกันออกไป ถ้าใส่ปุ๋ยเคมี รสชาติจะออกหวานแบบชืด ถ้าใสปุ๋ยชีวภาพก็จะหวานแบบชื่นใจคือหวานแบบธรรมชาติ ที่บ้านเราหมักปุ๋ยเองเองเลยหวานเจี๊ยบทุกลูก

                   ด้วยสภาพอากาศช่วงของฤดูหนาวค่อนข้างจะยาวนาน จึงเป็นผลดีกับผู้ปลูกมะปราง และมะยงชิด มะปรางออกช่อและติดลูกมีถึง 2 ช่วงด้วยกัน โดยช่วงแรกผลจะสุกประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ และช่วงที่สองประมาณเดือนมีนาคม สำหรับรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตในแต่ละปีหายแสนบาท ซึ่งไม่รวมการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ที่ได้ในแต่ละเดือน เพราะหนึ่งกิโลกรัมละมีประมาณ 8-15 ลูก ราคาเฉลี่ย 150-350 บาท แต่ละต้นจะให้ผลผลิตเฉลี่ย 40-60 กิโลกรัม และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาปรึกษา ดูวิธีปลูก และซื้อกิ่งพันธุ์ทุกวัน


สำหรับผู้ที่สนใจต้องการข้อมูลในการปลูกและดูแลบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและให้ผลผลิตเร็วสามารถติดต่อได้ที่ 08-97401140 ครับ





วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มะยงชิด มะปรางหวาน แตกใบอ่อน

ช่วงนี้ มะยงชิด มะปรางหวาน แตกใบอ่อนอีกแล้วครับ ต้องระวังแมลงให้ดีนะครับ
 เพลี้ยไฟจะทำลาย ตัวอ่อนเพลี้ยไฟและตัวเต็มวัยจะใช้ปากดูดเจาะและดูดกินน้ำเลี้ยงจากเซลล์พืชบริเวณใบอ่อน ยอดอ่อน ตาใบ ตาดอก โดยเฉพาะฐานรองดอกและขั้วของผลอ่อน ทำให้ยอดอ่อนบริเวณนั้นถูกทำลาย เช่น ใบมะปราง ถ้าถูกเพลี้ยไฟไปทำลาย จะพบว่าใบที่แตกใหม่จะแคระแกร็น ขอบใบและปลายใบไหม้ ใบอาจจะร่วงตั้งแต่ยังเล็กๆ สำหรับใบที่มีขนาดใหญ่แล้ว เพลี้ยไฟมักเข้าทำลายตามขอบใบทำให้ใบม้วนงอ มีอาการปลายใบไหม้ ถ้าเป็นการทำลายที่ยอด จะทำให้ยอดแห้ง ไม่แทงช่อ และถ้าเป็นการทำลายตั้งแต่ระยะติดผล จะทำให้ช่อดอกหงิกงอ ดอกร่วงไม่ติดผล หรือติดผลน้อยและเป็นผลที่ไม่สมบูรณ์ ให้ฉีดสารเคมีคาร์โบซัลแฟนนะครับ ฉีดตั้งแต่เริ่มแตกใบอ่อนเลยครับ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มะยงชิดสำหรับรีสอร์ทหรือบ้านจัดสรร


สำหรับรีสอร์ท หรือท่านที่อยู่บ้านเดี่ยวหรือบ้านจัดสรร ที่มีเนื้อที่จำกัด แต่ต้องการปลูกมะยงชิด แนะนำต้นใหญ่ที่ออกลูกแล้ว ทางเรารับปลูกพร้อมดูแล และรับประกันนะครับ

ต้นขนาดนี้ออกลูกแล้วนะครับ ถ้าปลูกลงดินจะงามกว่านี้ แต่เราก็สามารถตกแต่งตัดยอดไม่ให้ต้นสูงมากเกินไป ให้ได้ทรงพุ่มตามที่ต้องการได้ครับ

มะยงชิด ผลสีส้มทอง ถือเป็นผลไม้มงคลปลูกไว้ประดับบ้านได้ เก๋ไปอีกแบบนะครับ เพราะตอนที่ออกลูก ขอบอกว่า สวยงามมากกกกก

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

รายได้เสริม ปลูกผลไม้ไว้ ในสวนมะยงชิด

นอกจากที่บ้านจะมีมะปรางหวาน และมะยงชิด ที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายกแล้ว เราก็ยังปลูกผลไม้อื่นๆ ไว้รับประทานด้วย เรียกว่ากินได้ทั้งปี แต่ที่ทำรายได้รองลงมาจากมะยงชิด ก็คือ มะม่วง นี่แหละครับ เป็นกิ่งพันธุ์ดี ที่เลือกมาปลูก ออกลูกมาดกเต็มต้น และก็อร่อยกว่าทุกๆ ที่ ลูกใหญ่ เมล็ดแบนบาง สีสวย ตอนนี้กำลังขยายพันธ์ุเพื่อจำหน่ายกิ่งตอน คาดว่า เร็วๆนี้ จะมีจำหน่ายนะครับ

มะม่วงน้ำดอกไม้ เวลาที่เก็บมา ลูกจะใหญ่มาก 2 ลูกเกือบกิโลเลยนะครับ

ลูกมะม่วงดกจนต้องหาไม้มาค้ำต้นไว้ กลัวต้นจะโค่น กิ่งมะม่วงจะหัก



ดูจากขนาดลำต้นของมะม่วง ยังไม่ใหญ่มากนัก แต่จำนวนลูกมาก เยอะจริงๆครับ

ส่วนมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ ก็มีเยอะเหมือนกันครับ


สำหรับเคล็ดลับในการปลูกมะม่วงให้ดกอย่างนี้ ต้องถามมาจากคุณยาย เราใช้ปุ๋ยชีวภาพสูตรพิเศษที่หลายท่านคงอยากทราบ ถ้าสนใจที่จะได้ข้อมูล สอบถามมาทางโทรศัพท์หลังไมล์เลยนะครับ

ซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้จากที่สวนรับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะหวานมากและสีสวย น่าทาน

ลูกใหญ่เบ้อเร่อเลยเกือบใหญ่เท่าหน้าน้องเค้า มะม่วงปลอกแล้ว สีสวย ยิ่งถ้าเป็นข้าวเหนียวมะม่วงนะครับ อร่อยมาก




วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

สวนมะยงชิด ปี2555

หลังเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงปลายปี 54 หลายๆ สิ่งเปลี่ยนไป ซึ่งรวมทั้งสวนมะยงชิด มะปรางหวานของบ้านผม  อยากจะแนะนำสำหรับท่านที่ยังไม่มีต้นไม้ คิดไม่ออกว่าจะปลูกต้นไม้อะไรดี ผมว่า..มะยงชิด และมะปรางหวาน น่าสนใจมากนะครับ เพราะราคาผลผลิตที่ได้คุ้มค่าต่อการลงทุน และต้นมะยงชิด และมะปรางหวานยังอดทน
ตอนแรกนึกว่ามะยงชิดไม่รอดซะแล้ว ลองดูภาพต้นไม้ที่สวนกันหน่อย ออกลูกแล้ว ยังเขียวอยู่

พอมีผลมะยงชิดแก่จัด เราก็ใช้โฟมห่อคับ กันนกมาจิกกิน


แต่โชคดี เรายังมีสวนมะยงชิด มะปรางหวาน ให้เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ได้มาเที่ยว





ปีนี้มะยงชิดเรียกว่าขาดตลาดเลย มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย ต้องขอโทษลูกค้าหลายๆท่านที่ไม่ได้กริ๊งกร๊างไปหากัน เพราะผลผลิตมีไม่มากเท่าปีที่แล้ว เราก็เลยพอมีเวลา



ชิวๆ ว่างก็มาปั่นจักรยาน เก็บมะยงชิด สบายใจดี